วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

[Legendary Monster Project]The Kraken pt.1




เรื่องคราเคนสามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นตำนานที่น่ากลัวที่สุดของเหล่านักเดินเรือทั้งหลาย ตามที่้เล่าๆกันมารูปร่างคร่าวๆของมันคือ มันตัวใหญ่อภิมหาใหญ่

มีหนวดยุ่บยั่บเหมือนปลาหมึก ซึ่งไอ้หนวดนี่ยาวมากพอที่จะ เิอื้อมไปจนถึงยอดของเสากระโดงของเรือทุกๆลำ(ในศตวรรษในที่ 19) วิธีโจมตีเรือลำต่างๆของมัน โดยมากมันจะใช้วิธี
ใช้หนวดโอบรัดรอบลำเรือ แล้วพลิิกให้คว่ำเพื่อจะแดกผู้โดยสารทั้งหลาย ซึ่งก็มีหลายรสชาติ ไม่่ว่าจะเป็นรสกลาก เกลื้อน หรือจะเป็นรสเริมหรือรสหนองใน มันก็แดกหมด
โดยไม่เลือก(อ่า กินง่ายเลี้ยงง่ายโตง่าย ฮ่าฮ่า) จากที่ฟังๆมามันก็แึ้ค่เรื่องของสัตว์ประหลาดตะกละที่มากินคนทำไมไม่รู้ มันก็ไม่เห็นจะมีัอะไรน่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะึัครับ
แต่อย่าพึ่งผิดหวัง เพราะเรื่องของมันไม่ได้มีแค่นี้(ถ้ามีแค่นี้มันอยู่เหนือเรื่องสัตว์ประหลาดๆในทะเลตัวอื่นๆได้ยังไง ใช่มั้ยล่ะ?) เรื่องของมันไม่ได้มีแค่นี้
เพราะเรื่องมันถูกสร้างจากเรื่องจริง แล้วผมก็ไม่ได้พูดลอยๆ 
เพราะผมมีหลักฐานของเรื่องนี้ ฮ่าฮ๋า เกริ่นจบแล้วไปเริ่มเรื่องหลักกันดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า ไอ้ตัวนี้มันไม่ได้มีตัวเดียว เพราะตัวหนึ่งจะมีเขาส่วนอีกตัวไม่มี แต่ว่าที่มันเหมือนกันคือ มันเป็นยักษ์เหมือนกัน และมันมีหนวดยุ่บยั่บเหมือนกัน
ซึ่งไอ้พวกนี้ ตามหลักฐานของคนยุคโบราณแล้ว มันระบุว่าไอ้พวกนี้มีอยู่จริงในยุคนั้น(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้แค่ไหน) ตามบันทีกตำนานสกิลลาแห่งกรีกโบราณ
นายโอดิสเซียสนักเดินทาง เคยเห็นสัตว์ประหลาดๆตามลักษณะที่เรียกว่า คราเคน ซึ่งเขาอ้างว่าเค้าแล่นเรือผ่านมันไปโดยที่มันไม่ได้จู่โจมเค้า ซึ่งไอ้ตัวที่เค้าเห็นมันมี 6 หัว นอกจากนี้ในปี 1555 โอลาอัส แมกนัส ได้เขียนเรื่องของสัตว์ทะเลชนิดหนึ่งซึ่งเขาได้พบเห็นไว้ว่า มีเขาแหลมรอบหัว 
และมีรูปร่างเหมือนกับรากไม้(หนวดปลาหมึกนั่นแหละ)
ซึ่งหนวดแต่ล่ะอันมีขนาดประมาณ 10-12 ศอก (2.5-3 เมตร) มีสีดำขลับ และมีตาขนาดยักษ์ซึ่งแววตาน่าขนลุกขนพองมาก และหลังจากนั้นเรื่องราวของคราเคน
ก็ได้เงียบหายไป จนกระทั่งถูกขุดคุ้ยปมขึ้นมาอีกครั้งในปี 1735 ในหนังสือเรื่อง Systema Naturae
ซึ่งเขียนโดย Carolus Linnaeus(โคราลัส ลินเนียส)
ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ ได้กล่าวเรื่องของคราเคนไว้ว่า มีผู้เคยพบสัตว์ประหลาดชนิดนี้เมื่อศตวรรษที่ 12 ในแถบทะเลของนอเวย์ ซึ่งไอ้โคราลัส(ผู้เขียน)ได้ตั้งประเด็นแย้งว่า
ไอ้นี่ไอ้คราเคนเนี่ยมันเป็นแค่เกาะๆหนึ่ง ซึ่งคนที่เห็นอุปทานไปเองว่ามันเป็นสัตว์ประหลาด เค้ายังบอกอีกว่าพวกนั้นคงกลัวจนขี้ขึ้นสมอง ทำให้คนลืมมันไปอีกครั้ง
เพราะเชื่อ โคราลัส จนกระทั่งปลายปี 1752 หัวหน้าบาทหลวงแห่งเบอร์เกน นาย Erik Ludvigsen Pontoppidan(อีริค ลุดวิกเซ่น ปันทอบพิดอน ชื่ิิิือแม่งมาเต็ม) เขียนหนังสือเรื่อง The Natural History of Norway(ประวัติศาสตร์ธรรมชาิติ
แห่งนอร์เวย์) ขึ้น เขาบรรยายเกี่ยวกับคราเคนในทฤษฏีที่โต้แย้งกับโคราลัสโดยสิ้นเชิง ซึ่งโคราลัสคงจะแสบดากไม่น้อยเพราะมันแย้งกับทฤษฏีของเขาอย่างชัด
เจนแจ่มแจ้ง โดยนายอีริค อธิบายว่า "คราเคนมันเป็นสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย คนที่บอกว่ามันไม่มีจริงก็คงจะเป็นแค่คนบ้า
ที่ชอบสาวแหนคนหนึ่ง ไอ้ึคราเคนเนี่ยขนาดจริงๆของมันก็คือ 1.5 ไมล์ ซึ่งมันก็ใหญ่พอๆกับเกาะนี่เอง เพราะฉนั้นคนที่พูดว่ามันเป็นแค่เกาะก็ขอให้คิดใหม่
เพราะถึงมันจะเป็นเกาะจริงๆ มันก็เป็นเกาะมีชีวิต" นอกจากนี้บิชอปอีริคยังบอกอีกว่า คราเคนมันเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์เดียวกับปลาดาว 
บิชอปอีริค ยกให้คราเคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดสำหรับชาวเรือ ซึ่งเค้าเชื่ออย่างฝังใจยิ่งกว่าสาวไทยคลั่งดาราเกาหลีว่ามันมีอยู่จริงๆ นอกจากนี้เค้ายังกล่าวทิ้งท้าย
ไว้ว่า "คราเคนมันเป็นสัตว์ที่อยู่ในทะเลลึกซึ่งมนุษย์ไม่สามารถหยั่งถึง แต่มันขึ้นมาบนผิวน้ำด้วยเหตุประการใดคงจะได้รู้คำตอบกันซักวัน"(ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมตานี่
มั่นใจซะเหลือเกิน) ผมขอโทษที่ผมลืมเขียนมาเอามาไว้หลังแล้วกัน บิชอปอีริคได้กล่าวถึงสาเหตุที่คราเคนโจมตีเรือต่างๆเค้ากล่าวว่า"ฝูงปลาน้อยใหญ่ชอบที่จะมา
อาศัยอยู่ใกล้ๆกับคราเคน ซึ่งพวกชาวประมงก็จะตามไปจับปลาพวกนั้น ซึ่งแหวกว่ายอยู่บริเวณใกล้เคียงกับคราเคน พอชาวประมงเข้าไปยุ่มย่ามมันก็เกิดรำคาญเลย
โจมตีเข้าให้"
แปลครั้งแรกเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 เผยแพร่ครั้งแรกที่ HERE





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น